การหมัก "สาเก"

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากประเทศญี่ปุ่นนั้น ได้รับความนิยามอย่างมากทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเบียร์คิริน, อาซาฮิ, ซัปโปโร และอีกหนึ่งอย่างที่นิยมกันก็คือ "สาเกญี่ปุ่น" นั่นเอง

สาเกนั้นเป็นเครื่องดื่มประจำชาติของชาวญี่ปุ่นมายาวนานหลายศตวรรษ จึงทำให้ไม่รู้แน่ชัดถึงช่วงเวลาต้นกำเนิดที่แท้จริง ประวัตความเป็นมาที่เป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่นซึ่งรวบรวมไว้ในปี พ.ศ.1255 อยู่ในช่วงยุคนาระ (奈良時代) พ.ศ.1253-1337 ต่อมาในยุคเฮอัน (平安時代) พ.ศ. 1337-1728 สาเกเริ่มถูกใช้ประกอบในพิธีทางศาสนา และผู้คนก็เริ่มดื่มสาเกกันบ่อยขึ้น ในช่วงแรกโรงผลิตเหล้าอยู่ในการดูแลของรัฐบาล แต่ในคริสต์ศตวรรษที่ 10 (พ.ศ.1444-1543) ตามวัดและศาลเจ้าก็เริ่มหมักเหล้ากันเอง และก็กลายเป็นสถานที่หลักในการหมักสาเกเป็นระยะเวลานานถึง 500 ปี ทำให้ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 (พ.ศ.2244-2343) สาเกก็กลายเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมสูงมากในญี่ปุ่น ปัจจุบันนี้ สาเกเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และมีอุตสาหกรรมการผลิตสาเกกระจายอยู่หลายแห่งทั่วโลก อีกทั้งรัฐบาลญี่ปุ่นยังกำหนดให้วันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปีเป็นวันสาเก (日本酒の日) อีกด้วย

ชาวต่างชาติมักจะเคยชินกับคำว่า สาเก (酒) แต่ความจริงแล้วคำว่าสาเกนั้นแปลว่าเหล้า ซึ่งหากสื่อสารกับคนญี่ปุ่นเขาจะไม่เข้าใจว่าต้องการเหล้าแบบไหน เพราะสาเกสำหรับคนญี่ปุ่นนั้นเขาจะเรียกว่า เซยชู (清酒) ที่แปลว่า แอลกอฮอล์ที่ทำจากข้าว ทีนี้ก็มาพบกับวิธีทำสาเกกันค่ะ

วิธีการทำสาเก

การทำสาเกนั้นจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ปี โดยมีขั้นตอนคร่าวๆดังนี้

1. นำข้าวที่ผ่านการสีข้าวแล้วมาล้าง แช่น้ำไว้ และนำมาใส่หม้อนึ่งให้สุก
2. ใส่เชื้อราโคจิลงไปเพื่อช่วยในกระบวนการหมักข้าว ขั้นตอนนี้จะใช้เวล่ 5-7 วัน ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส
3. จากนั้นก็จะใส่น้ำและยีสต์ลงไปหมักต่อเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ ที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส
4. หลังจากที่หมักเสร็จแล้ว ก็จะนำเหล้าสาเกมากรองและบ่มต่อเป็นระยะเวลา 9-12 เดือน
5. เมื่อได้ที่แล้วก็นำมาบรรจุขวด พร้อมสำหรับการบริโภคเรียบร้อย